ไขข้อสงสัย “สแกนม่านตา World” เทคโนโลยีแยกคนจริงออกจากบอท ปลอดภัยจริงหรือ?

ท่ามกลางกระแสข่าวและความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเกี่ยวกับเทคโนโลยี “สแกนม่านตา” World ได้ออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมด เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่สังคมไทย โดยสรุปประเด็นสำคัญที่ทุกคนควรทราบ เพื่อนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ยกระดับความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตในโลกดิจิทัลได้อย่างเต็มศักยภาพ

ไม่ใช่โครงการนิรนาม แต่เป็นเทคโนโลยีระดับโลก

หลายคนอาจยังไม่ทราบว่า World คือเทคโนโลยีที่พัฒนาโดยบริษัท Tools for Humanity (TFH) ซึ่งร่วมก่อตั้งโดย Sam Altman บุคคลที่ทั่วโลกรู้จักในฐานะผู้สร้าง ChatGPT เป้าหมายหลักของโครงการนี้ไม่ใช่การสร้างธุรกิจ แต่เป็นการสร้างมาตรฐานความปลอดภัยใหม่เพื่อต่อสู้กับการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในทางที่ผิดโดยกลุ่มมิจฉาชีพ ปัจจุบันเทคโนโลยีนี้ถูกใช้งานอย่างแพร่หลายในหลายประเทศชั้นนำทั่วโลก สะท้อนให้เห็นถึงการยอมรับในระดับสากล

หัวใจสำคัญคือ “การพิสูจน์ความเป็นมนุษย์” ไม่ใช่การยืนยันตัวตน

ความเข้าใจผิดที่พบบ่อยที่สุดคือการมองว่าการสแกนม่านตาเป็นการเก็บข้อมูลเพื่อยืนยันตัวตน แต่ในความเป็นจริงแล้ว เทคโนโลยีของ World ถูกออกแบบมาเพื่อตอบคำถามเพียงข้อเดียวคือ “คุณเป็นมนุษย์จริงหรือไม่?”

ระบบนี้ไม่ต้องการและไม่เก็บข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นชื่อ-นามสกุล, ที่อยู่, เบอร์โทรศัพท์ หรือหมายเลขบัตรประชาชน ประโยชน์ที่ผู้ใช้งานจะได้รับคือ ความสามารถในการยืนยันว่าบัญชีออนไลน์ของคุณเป็นของมนุษย์จริงๆ โดยไม่ต้องเปิดเผยตัวตน ทำให้คุณสามารถท่องโลกดิจิทัลได้อย่างเป็นส่วนตัวและปลอดภัยยิ่งขึ้น

ยกระดับความปลอดภัยข้อมูล ปกป้องความเป็นส่วนตัวขั้นสูงสุด

ข่าวลือเรื่องการซื้อขายหรือการรั่วไหลของข้อมูลชีวมิติไม่เป็นความจริง World ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานเป็นอันดับหนึ่ง โดยมีกระบวนการทำงานดังนี้:

• ภาพม่านตาที่ถูกสแกนจะถูกแปลงเป็น “Iris Code” ซึ่งเป็นรหัสตัวเลขที่ไม่สามารถแปลงกลับมาเป็นภาพต้นฉบับได้
• ภาพม่านตาต้นฉบับจะถูกลบออกจากระบบทันทีหลังการประมวลผล
• ระบบไม่ได้เชื่อมต่อหรือเข้าถึงแอปพลิเคชันทางการเงินใดๆ ของผู้ใช้งาน

ด้วยการออกแบบที่รัดกุมนี้ ผู้ใช้งานจึงมั่นใจได้ว่าข้อมูลของตนจะปลอดภัยและไม่ถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด

สร้างเกราะป้องกันให้ชีวิตดิจิทัลของคุณปลอดภัยขึ้น

ภารกิจหลักของ World คือการสร้างสังคมออนไลน์ที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน ในยุคที่มิจฉาชีพใช้ AI และบอทสร้างบัญชีปลอมเพื่อหลอกลวงได้อย่างแนบเนียน การมีเครื่องมือที่สามารถแยก “มนุษย์” ออกจาก “บอท” ได้อย่างชัดเจนจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง

เทคโนโลยีนี้ช่วยให้แพลตฟอร์มต่างๆ สามารถมอบประสบการณ์ที่ดีขึ้นและปลอดภัยขึ้นให้กับผู้ใช้งานจริง เช่น การลดปัญหาสแปม, บัญชีปลอมที่สร้างความวุ่นวาย หรือการใช้บอทเพื่อฉ้อโกงในรูปแบบต่างๆ ในประเทศไทยมีการร่วมมือกับพันธมิตรอย่าง Pantip, Whoscall และอื่นๆ เพื่อเสริมเกราะป้องกันนี้ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

มุ่งมั่นลงทุนในไทย พร้อมท้าทายให้ทุกคนร่วมตรวจสอบ

World แสดงความโปร่งใสและความมุ่งมั่นในการดำเนินงานภายใต้กฎหมายไทยอย่างเคร่งครัด ยิ่งไปกว่านั้น ยังได้เปิดเผยซอร์สโค้ดทั้งหมดบน GitHub ให้ผู้เชี่ยวชาญทั่วโลกสามารถเข้ามาตรวจสอบความปลอดภัยได้อย่างเต็มที่

ล่าสุด บริษัทได้ประกาศจัด “Orb Hackathon” เพื่อท้าทายให้นักพัฒนาและผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยเข้ามาทดสอบความแข็งแกร่งของระบบ พร้อมประกาศลงทุนกว่า 25 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนนักพัฒนาไทยในการสร้างสรรค์นวัตกรรมโดยใช้เทคโนโลยี World ID เป็นแกนหลัก ซึ่งเป็นการผลักดันและยกระดับศักยภาพของวงการเทคโนโลยีในประเทศให้ก้าวสู่เวทีโลก